วิชาฮวงจุ้ย แบบลึกซึ้ง

ข้อผิดพลาด เตือน ก่อนเรียน ฮวงจุ้ยบ้าน

 

ฮวงจุ้ยบ้าน

 

จริงๆเมืองจีนหนะ เค้าวางมาตรฐานฮวงจุ้ยที่ดีว่า หลังต้องพิงขุนเขา เพราะบ้านเขาเมืองเขา หินภูเขามันแข็ง ลองมาตั้งแบบนั้นที่บ้านเราสิ ไม่โดด land slide ก็คงบุญโขมากๆ ทางนู้นลมแรงเลยต้องเน้น pause ลม ส่วนบ้านเรา จำต้องใช้ลม ไว้ขับไล่ความร้อน และความชื้น ให้มันออกไปไวๆ

ดวงจีนทำนายกับคนได้ทั่วโลก (ลองมาแล้ว ยืนยัน)

ฮวงจุ้ยจีน ใช้ได้เฉพาะกับ ประเทศทางแถบเส้นศูนย์สูตรเดียวกับจีน

เมืองที่ภูมิประเทศและอากาศคล้ายๆกันเท่านั้น ถ้าไม่ปรับเลย เอามาใช้กับ ไทยแบบ ดาดๆ รับรองว่า ไม่เหมาะแน่ๆ ก็ขนาดลมประจำฤดูยังพัดไม่เหมือนกันเลย ที่สำคัญคือ อุณหภูมิสูงสุดกับต่ำสุดก็ไม่เท่ากัน

ฮวงจุ้ยจริงๆเลยต้องประกอบด้วย 2 ส่วนที่ต้องมองหลักๆ แต่สมัยนี้ เอาส่วนแรก แตกเป็นหนึ่งสำนัก ส่วนที่สอง แตกเป็นอีกหนึ่งสำนัก อนิจจา

ถ้ามันปรับฮวงจุ้ย ย้ายฮวงจุ้ยมันเปลืองหัว เปลืองเงินมาก ก็ทำไมไม่คิดว่า แก้ที่ตัวเราแทนหละ ตัวเจ้าปัญหาก็คือ ตัวเรา ตัวรับสภาพก็ตัวเรา ดังนั้น ตัวเราเองจึ่งต้องเป็นคนแก้ปัญหา ถ้าจะเอาแบบไวสุด

คือ มองตัวเรา เป็น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ สามกองมาประกอบกันซะ เลิกยึดเป็นตัวเป็นตน ก็จบ ทีนี้ถามว่า มันง่ายไหม ไม่ง่ายหรอก แก้ฮวงจุ้ยง่ายกว่าอีก แต่มันไม่เสียเงินไง และอีกอย่างคือ ทำแล้วไม่ สูญ

ซินแสหลัว
เลยอยากขอแนะวิธีคร่าวๆ ว่า เมืองไทยเรา น้ำท่าอุดมสมบูรณ์เลยไม่จำต้องมาตรวจตราทางน้ำอะไรมากมาย สมัยก่อนหนะ จีนมันควบคุมน้ำไม่ไหว แม่น้ำมันใหญ่ไป ที่ใกล้น้ำ น้ำก็ท่วม ที่ไกลน้ำ น้ำก็แล้ง เขาเลยต้องใส่ใจน้ำมากๆ บ้านเรา จังหวัดไหนบ้างที่แห้งกันดาร แทบจะหาไม่เจอละตอนนี้ ห่วงอย่างเดียวคือ ลม แต่อย่าไปแปลว่า ลมสิ ให้แปลว่า ออกซิเจน แปลว่าหัวใจหลักของบ้านที่ต้องดูนะ คือ ระดับออกซิเจน ที่มีอยู่ เพราะมันจำเป็นสำหรับเลือดของเรา เราได้ออกซิเจนมาจาก สองแหล่งใหญ่ๆในชีวิต คือ จากการหายใจ (ไม่ใช่แค่เข้าทางจมูก ผิวหนังก็ระบายรับส่งได้ แต่จมูกมันทางเข้าใหญ่สุดตรงสุดเท่านั้น เพราะลงหาปอด ลงเส้นเลือดแดง เข้าหัวใจได้เลย) อีกแหล่งคือ จากการดื่มน้ำ และอาหารฯ ก็เลยบอกละมีวิธีที่พุทธเจ้าสอนไว้ เห็นไหม คืออะไร คือ อาณาปาณสติ ส่วนของจีนก็คือวิชา ชี่กง สองวิชานี้ว่าด้วย การหายใจล้วนๆ คือ ตามรู้ตามเห็นลมหายใจ ผลทางตรงคือได้สติ ผลทางอ้อม ปอดจะถูกฝึก จมูกจะถูกฝึก เหมอืนเราจูนเครื่องของเราทำให้ดูดอากาศ กรองอากาศได้มีประสิทธิภาพเยอะขึ้น เพื่อไปรวมกับ เลือด ในการส่งลำเลียงไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะ สมอง

ในพระอภิธรรม (อภิธัมมัตถสังคหะ) กล่าวว่า ที่อยู่ของจิต และเจตสิก พูดให้คนที่ไม่เคยเรียนฟังก็คือ จิตใจของเรา ความรู้สึก นึก คิด จำได้ ของเรานั้นหละ มันมีที่อยู่ตรง ช่องๆหนึ่งในเนื้อหัวใจ ขนาดเล็กมากๆ แต่ว่ามีที่ทำงานคือ สมอง ซึ่งอากาศที่ดีย่อมผ่านโดยเลือดเป็นพาหนะ ลำเลียงไปหล่อเลี้ยงที่สำคัญๆ อย่างหัวใจ และสมอง เมืออากาศดี ก็ย่อมทำให้ อารมณ์ดีตาม สมองดีตาม พอไปที่ๆธรรมชาติดีๆ เราเลยชอบพูดว่า ปลอดโปร่ง โล่งสบาย หัวแล่น คิดอะไรๆออกไว

คำถามก็คือ บางทีไปเที่ยวละนะ ธรรมชาติละนะ หรือไปหาต้นไม้ แนวชีวิตต้องการทะเล หรือ ชีวิตต้องการป่า ที่วัยรุ่นชอบพูดกัน แต่ว่าทำไมสมองมันตื้อ อารมณ์ขุ่นๆ ตอบง่ายๆ ก็เพราะปัจจัยมันไม่ได้อยู่ที่สภาพแวดล้อมหรืออากาศทั้งหมดเป็นตัวกำหนด มันอยู่ที่ผัสสะ ต่างหาก ถ้าท่านไม่เปลี่ยนผัสสะ ต่อให้เปลี่ยนที่ก็แล้ว เที่ยวก็แล้ว หนีไปต่อไหนๆก็แล้ว มันก็ย่อมเป็นเหมือนเดิม

ผัสสะ อะไรหละ ผัสสะคืออะไร ก็คือ ลด หรือ ลบ การกระทบครับ
เช่น ไม่ไปในที่ๆ ตา จะได้เห็นสถานที่หรือเรื่องราวเก่าๆ เรื่องราวเศร้าๆ
ไม่เอาหู ไปในที่ๆ จะได้ยิน ฯลฯ
ไม่เอาจมูก ไปในที่ๆ จะได้กลิ่น ฯ ปาก ลิ้น กับ ที่จะได้รส กายกับ สิ่งสัมผัสทางกาย และสำคัญที่สุดที่หลายๆคนชอบจะมองข้ามคือ การไม่เอาใจไปผูกติด แปลว่า ถ้ามันผุดคิดต้องรีบตัดออกไป เหมือนเปลี่ยนช่องทีวีโดยกดรีโมทปานนั้น พอเปิดละเจอหนังผีปั๊ป อย่าไปทนดูหนังผีแล้วคิดว่า โอ้หนอมันจะจบลงเอง ให้รีบเปลี่ยนช่องทันที ไวกว่า เพียงที่เขาสอนให้ดูก็เพราะว่าเพื่อให้มีสติ แยกแยะออกก่อนว่า นั้นคือ ช่องผีจริงป่าว ถ้าผีโกรธต้องเปลี่ยนไปช่องเมตตา ถ้าผีโลภให้เปลี่ยนมาในช่องอนิจจา มองเห็นความไม่เที่ยงยึดไม่ได้

จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยน ฮวงจุ้ย หรือถ้าพูดให้มันดูไม่งมงายหรือเข้าข้างวิชาจีนมากไป พูดว่า เปลี่ยนสถานที่ ทำให้ ผัสสะ เราได้เปลี่ยนตั้ง 5/6 แล้วทำไมมันยังคิดอยู่หละ ก็ มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนยา
แปลว่า ธรรมทั้งหลาย (พูดให้ภาษาชาวบ้านคือ ทุกสิ่งอย่าง ) มีใจเป็นใหญ่ มีใจถึงก่อน สำเร็จด้วยใจ เพราะใจนี่ไวมาก ไหนลองคิดว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงสิ เห็นไหม ปั๊ป คิดขึ้นมาได้เลย จึ่งอยากบอกว่า ฮวงจุ้ยมันแค่ตัวเสริม แก้สันดาน แก้ใจ เปลี่ยนนิสัยนั้นสำคัญกว่า หลวงปู่ชาท่านสอนเน้นมากว่า ผลของการเข้าหาธรรมะที่แท้ คือ นิสัยเธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นไหม

คำตอบของว่า ทำไม วิชาดวงเลยเป็นสากล ส่วนฮวงจุ้ยต้องเอามาปรับก่อน ก็เพราะ ดวง มันไปยุ่งกับเรื่องราวของจิตใจ มันเลยเป็นสากล ณ ความทุกข์ระดับเดียวกันท่ี่เรารู้สึก มันทุกข์เท่ากันนะ ฝรั่งก็ร้องไห้ได้ คนไทยก็ร้องไห้ได้ ถ้าเสียใจ ไม่ใช่ว่า คนไทยเสียใจร้อง ส่วนฝรั่งเสียใจ ยังไงก็ไม่ร้องเสียเมื่อไหร่ แต่ว่า สภาพอากาศเราต่างกัน สภาพประเทศก็ต่าง อาหารที่ทาน อากาศที่สูดก็ต่างกัน ที่สำคัญคือ กรรมเรามันก็ต่างกัน เพราะฉะนี้แล นะ ฮวงจุ้ยเลยต้องนำมาปรับให้เข้ากับสภาพแต่ละท้องที่ คืออยากจะแนะนำว่า ก่อนจะอยากไปเรียนฮวงจุ้ยหนะ ทำความเข้าใจสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศของประเทศเราให้ดีก่อนครับ การสอนฮวงจุ้ยบทแรก จึ่งควรสอนว่า ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ขึ้นต้นก่อน ไม่ใช่ว่า เอารวยเข้าล่อ เอาความฉอเลาะเข้าหว่านล้อม พูดตะล่อมจากคนไม่เชื่อให้เชื่อ เสริมมุกให้่ดูไม่น่าเบื่อแต่จริงๆสาระหาย และวิชาสำนักตนดีอยู่อย่างเดียวดาย ส่วนวิชาสำนักอื่นก็มาปรามาสให้เสียหาย แบบนี้ไม่ควรทำ เราต้องคิดว่า ถ้าไม่มีข้อดีเลย เขาอยู่รอด สืบทอดกันมาได้อย่างไร ไม่ได้บอกให้เชื่อทั้งหมด และไม่ได้บอกว่าอย่าเชื่อ แต่ให้รู้จัก เลือกที่จะเชื่อ เห้อนะ แต่บรรดาคนที่ชอบทานเหล้าเมายา คงทำข้อนี้ยากหน่อย เพราะผิดศีลข้อนี้ ทำให้ปัญญา ลดลง เมื่อปัญญาน้อย จะไปแยกแยะอะไรก็ได้น้อย เปรียบเสมือนตะแกรงคุณรูมันห่างเกินไป เศษกรวดกับข้าวเปลือกก็ปนๆ กันหมด ทั้งใหญ่น้อย ก็ต้องมานั่งเสียเวลา กัดโดนหินตอนหุงข้าวอีก สู้ทำเหตุให้ดี ทำตัวให้ดีก่อน รอบเดียว ดีมั้ยขอรับ สรุปแล้ว การเรียนฮวงจุ้ย ก็ไม่ใช่เริ่มที่ ประเทศไทยเราอีกแหละ ควรจะศึกษา การรักษาศีลก่อน เพื่อให้มีปัจจัยแห่งปัญญา ก็คือ สมองที่ดีคอยรับเรื่องราว และทำความเข้าใจก่อน ปัญญา กับ ความฉลาดมันต่างกันนะขอบอก เพือ่นหลายคนเป็น หมอ เป็น ด๊อกเตอร์ สอบได้คะแนนเยอะมาก แต่ชอบทานเหล้า สูบบุหรี มีถมเถครับ คำว่า ปัญญา เลยมุ่งเน้นที่ความฉลาดแบบไม่ใช่ฉลาดในเรื่องโลกๆ แต่ฉลาดในเรื่องที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างแท้จริง มองเห็นอะไรตามความเป็นจริง คือให้มันมีรองรับซะหน่อย คนเรียนดวงเรียนฮวงจุ้ยก็ใช่ว่าจะปัญญาสูง เพราะถ้ามีปัญญาสูงป่านนี่บรรลุธรรมะละครับ แต่ก็ยินดีจะฝึกฝนเรื่อยๆ เพราะคนเราเกิดมาเพื่อฝึกฝน และอีกอย่างคือ ยังเวเสวติ ตาทิโสครับ คบคนเช่นไร เป็นคนเช่นนั้นครับ การที่ท่านเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะทำให้ได้เจอ อาจารย์ เจอเพือ่น เจอตำราดีๆ เข้ามาในชีวิตครับ เหมือนกับที่บางคนบอกว่า ตำราก็เลือกคนนะ