วิชา โป๊ยหยี่สี่เถียว บางครั้งก็ต้องดูดอก บ้างนะ

วิชาดวงจีน

วิชาดวงจีน

เมื่อวานตอนเย็น ณ วันที่ทำแปลกๆบ้าๆของผมด้วยการที่ตอนเช้าอยู่ เยาวราช ตกบ่ายไปนั่งริมทะเลที่พัทยา ละยังได้ดูลิเกเพราะมีงานฉลองศาลเจ้าประจำปีด้วยเหตุบังเอิญอีก นี่กะจะซื้อกล้วยน้ำว้ากับป้าที่บอกทางหน้าซอย เดินออกมาอีกที ป้าปิดร้านแล้ว นี่คือสิ่งที่แสดงวาสนาของคนว่า บางคน ที่ขายไม่ได้ไม่ใช่เพราะไม่มีคนอยากซื้อของเขา แต่กลับกลายเป็นว่า คนอยากซื้อแต่เขาดันปิดก่อน เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญสำหรับร้านค้ามาก นอกจาก ฮวงจุ้ย ก็คือ เวลาเปิดร้าน ปิดร้านครับ อย่าคิดนะว่า ร้านที่ขายกลางวันดีจะขายกลางคืนดีเหมือนกลางวัน หรือที่ขายกลางคืนขายดี เอามาขายกลางวันอาจจะขายไม่ได้ก็ได้ แล้วที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงนั้นเล่าที่ขายได้ตลอด
มีแค่สองธุรกิจที่ทำได้ครับ ค้าปลีก กับ โรงแรม จริงๆเขาไม่ได้เปิดทำการค้าหรอก เขาเรียกว่า ก่อกองไฟล่อแมงเม่า คือ ณ ที่มืดอันเวิ้งว้าง หากแม้นที่ใดยังเปิดอยู่ มีแสงไฟอยู่ รับรองแมงเม่าไป จะเห็นได้ว่า หน้าร้านค้าปลีกตลอด 24 ชั่วโมงนี้ มีคนนั่งจับกลุ่มกัน หรือเป็นแหล่งรวมของร้านขายของขนาดเล็ก ส่วนโรงแรมนั้นว่าด้วยเรื่องการเดินทางล้วนๆ ถ้าไม่เดินทางออกจากบ้านตัวเองเลยไม่ถึงโรงแรมหรอก จะผิดมากที่คิดว่าเขาขายดีเพราะเปิด 24 ชั่วโมง เปล่าเลย เขาขายดีเพราะ ความเป็นกองไฟล่อแมงเม่าได้เท่านั้น หรือแปลเป็นภาษาคนง่ายๆคือ เป็นที่พึ่งได้ เพราะจริงๆมีอีกอันนึงที่ไม่ปิดตลอด 24 ชั่วโมง คือ โรงพยาบาล และ ห้องน้ำตามปั้มครับ (ท่านใดคิดได้เพิ่มลองส่ง LINE มาบอกด้วยนะครับ ผมพิมพ์ตอนเช้า เพิ่งตืนหนะ อาจจะคิดได้ไม่ครอบคลุม) ความป่วยกับความอยากขับถ่าย จะห้ามงั้นเหรอ ฝันไปเหอะ นี้ก็แสดงถึงความเป็นที่พึ่งพากันได้ตลอดครับ หัวใจของการค้าที่จะอยู่ยั่งยืน ก็คือความน่าเชื่อใจ เชื่อว่าพึ่งพากันได้
นี้คือสิ่งที่ในการพิจารณา หลักโหราศาสตร์จีน ต้องดูทุกครั้งในเรื่องชีวิตคนที่จะประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นการค้าหรือบริการว่า เขามีลักษณะที่ทำให้ลูกค้าหรือคนรอบข้างเชื่อได้ว่า น่าพึ่งพา หรือ เป็นที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่ทิ้งหรือไม่ โดยถ้าใครได้อ่านในหนังสือ ชิ้นส่วนสำคัญใน ดวงจีน ที่สาบสูญของผมก็จะพบว่า อ้อ เรายึดเอาแถวเวลาเกิดของคนนั้นหละเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาหลักครับ หลักยิ่งกว่า ช่องห้า หรือไม่ ช่องห้า( กิ่งฟ้า เสาวัน)ในดวงชะตาคือ ตัวตัดสินว่า เราจะได้ดีหรือได้ร้าย เหมือนผู้พิพากษาครับว่า สิ่งที่เราได้รับนั้น มันจะเข้ามาทำให้เรามีสุขนาน หรือมีทุกนานกว่ากัน แต่ไม่ได้บอกเลยว่า เราชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไรได้ครอบคลุมดวงชะตาทั้งหมด เพราะบางทียอมรับกันไหมหละว่า สิ่งที่เราชอบกลับทำร้ายเรา สิ่งที่เราไม่ชอบกลับให้ผลดีกับเราได้ พอๆกับคนเป็นเก๊าชอบกินข้าวมันไก่ คนเป็นเบาหวานชอบกินของหวาน และที่โรคจิตไปกว่านั้น บังเอิญว่าตะก่อนก็ไม่ได้ชอบกินฟักทอง แต่พอได้ยินหมอห้ามว่า อย่าทานฟักทองมากนะครับ ปั๊ปเท่านั้นหละ ความอยากกินฟักทองจะบังเกิดมาทันทีในคนบางคนอย่างมากมายว่า ชอบทาน อยากทาน ต้องหามาทาน อันนี้ทีหลังเดี๋ยวเราค่อยมาพูดกันว่าแก้ไขอย่างไร
ทีนี้ ปากทางในการเข้าสู่ ดวงชะตา ผมจะขอพูดเปรียบเปรยเหมือนเราทานอาหารนะครับ ช่องสาม ( กิ่งฟ้า เสาเดือน) ก็คือตัวคว้าใส่ปาก แถวเวลาคือ การชอบหรือไม่ชอบคว้ามันมา ถ้าใครที่ดวง สามช่องนี้ มันหนุนเนื่องกันหรือเป็นธาตุเดียวกันนะ มันจะคว้าตามใจชอบเลยทีเดียว หรือเรียกว่า ทำอะไรตามใจตนเองนั้นหละ ไม่ใช่ว่ามาดูเอาตาม จับซิ้ง ว่า หึย เจอธาตุที่เป็น เจี้ยะซิ้ง หรือ ธาตุที่เราให้กำเนิดมากๆ ก็แปลว่าคนนี้ทำตามใจ เพราะชอบระบาย เปล่าเลย ความชอบระบายกับความเอาแต่ใจต่างกัน หลายคนบนโลก เอาแต่ใจแบบนิ่งเงียบ คล้ายๆ สิงโตจับเหยื่อครับ จะค่อยๆย่อง แล้วตะครุบเสียทีเดียว เล่นทำเราใจหายใจฟั่ม กันหลายคนละ
พอเราเอาเข้าปากละ มันจะมีประโยชน์ หรือเราต้องรีบคายทิ้งเพราะเผ็ดมาก หรือเพราะมันบูดดดดด ก็ดูจากช่อง ห้า เป็นตัวตัดสิน ผมเลยเถียงและย้ำมาตลอดว่า ดวงจีน เขาไม่ได้สร้างช่องกิ่งฟ้าเสาวันมาเพื่อดูแข็งหรืออ่อน เขาสร้างมาเพื่อบอกเราว่า ตัวตนที่แท้จริงของเราคืออะไร คือระบบ สกรีนของร่างกาย หรือระบบพิพากษาของร่างกาย ว่าอะไรดีหรือร้ายกับเราเท่านั้น เพราะฉะนั้นการทำนายดวงให้แม่นยำ ต้องมีหลายองค์ประกอบในการทำนาย เรื่องราวเหล่านี้ จะดูดวงได้แม่นช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับของเก่าและการฝึกฝนครับ
ช่องสาม กับแถวเวลาเกิด นี้ยังบอกเรื่องมือไม้ และการเดิน ก็หมายความว่า คนที่เดินด้วยการไม่ระวังขาแข้งตัวเอง หรือมือไม้ของตัวเอง ดันเป็นคนที่เอาแต่ใจน้อยกว่า พวกที่เดินด้วยการระวังกิริยาของตน คนซุ่มซ่ามเอาแต่ใจน้อยกว่าคนไม่ซุ่มซ่ามหนะหละ เพราะขนาดการเดินเหินการใช้ชีวิตของตนยังถูกกำกับอย่างดี คิดเหรอว่าไม่เอาแต่ใจ ไม่นับรวมพวกที่แกล้งซุ่มซ่าม หรือในบางวันที่คนเอาแต่ใจเขาเผลอ เขาเบลอนะครับ ดูจากอากัปกิริยาปกติ พูดให้เห็นภาพชัดๆคือ คนยิ่งมารยาทดีแค่ไหน ยิ่งเอาแต่ใจตัวเองเท่านั้น เพียงแต่ว่า เราดูเหมือนคนเถื่อนๆเขาเอาแต่ใจตัวเองถูกไหม นั้นเป็นการเอาแต่ใจที่ไม่ร้ายกาจ และไม่ทำร้ายใครเพราะ คนเถือนถือมีด ใครเห็นเราก็ต้องระวัง แต่พวกบัณฑิตหน้าขาว แล้วถือมีดนี่หละ เขาไม่ถือโต้งๆ เขาซ่อนไว้ในแขนเสื้อเขา ผมพูดเรื่องนี้ไม่ใช่ให้ไประแวงคนที่มีมารยาทดีนะครับ แต่พูดเพื่อบอกว่า ไม่ว่าจะเถื่อน หรือมารยาทดี มีสิทธิที่จะ เอาแต่ใจตัวเองได้ทั้งนั้น แต่เขาจะเป็นอันตรายต่อเราหรือไม่ ดูง่ายที่สุดคือ ดูความกตัญญูครับ ไม่มีทางที่คนมีน้ำใจจริงๆ หรือคนมีเมตตาจริงๆ จะไม่กตัญญู รู้บุญคุณพ่อแม่ เน้นว่าดูสำคัญที่พ่อแม่ เพราะนี่คือ แถวปีเกิดในดวงจีน หลายคนที่เราเห็น เกรงใจเจ้านาย เกรงใจเพือ่น แต่กับพ่อแม่ทำกิริยาไม่สมควรใส่นี่ ถ้าทำเพราะด้วยอารมณ์บางทีแน่นอนใครก็เคย แต่ถ้าทำเนืองๆ พิจารณาเอาไว้เลย ถึงความเอาแต่ใจ ถึงขั้นดื้อ ถ้าดื้อมากๆ เรียกดื้อด้าน แปลว่า ทำอะไรแล้วจะไม่ละอายต่อบาป หมายถึง ถ้าเอาแต่ใจบวกกับไร้กตัญญูจะกลายเป็น เหี้ยมโหดขึ้นมาได้ทันทีทันใด ต่อให้เรียบร้อยในวันธรรมดาอย่างไรก็ตาม เพราะฉะนั้น คุณธรรมที่มาเป็นปาท่องโก๋กันคือ ความกตัญญูและเมตตา อย่าไปปักใจเชื่อหน้ากากที่เขาใส่มาล่อว่าเขาใจดี ทั้งๆที่พอไปดูแล้วเขาทำไม่ดีกับพ่อแม่เขา ความใจดีจอมปลอมครับมันเป็นความใจดีที่แลกด้วยประโยชน์ เพราะฉะนั้นในการดูดวง หลายหนถ้าผมไม่แน่ใจว่า ควรช่วยหรือควรดูดวงให้คนๆนี้ไหม เราจะมองไปที่ ความกตัญญูของเขา ถ้าไร้ความกตัญญู หลายครั้งผมจะจั่วหัวว่า การเสียเวลาพูดเป็นชั่วโมงของข้าพเจ้านั้น บางทีอาจเหมือนเททิ้งน้ำ เพราะมันสิ้นประโยชน์กับคนดื้อด้าน แบบที่บอก เขามีแนวทางของเขาและไม่ฟังใครแม้แต่คนให้กำเนิดตัวเอง อย่างนี้เป็นต้นครับ
ตำราจีน เล่มไหนๆที่เขียนด้วยภาษาจีน ย่อมเขียนหลักในการเทียบดวงคนแบบต้นไม้ ว่า ปีเกิดคือ ราก เดือนคือ ต้น วันคือกิ่งใบ เวลาเกิดคือ ดอกผล
นี่คือสิ่งที่ผมทึ่งในภูมิปัญญาจีน คิดดูนะ คนเราก็เหมือนต้นไม้ ที่รากซึ่งเป็นทางเข้าอาหาร อยู่บนหัวเรา ปากเรา แล้ว กิ่งก้านใบที่พาต้นไม้ให้แผ่ขยายได้ หรือใช้สร้างผลงานของต้นไม่นั้น ก็คือ มือเรา ขาเรา เพราะฉะนั้นร่างกายเราก็คือ ต้นไม้ที่เดินกลับหัว เราเอารากชี้ขึ้นบน เอากิ่งก้านลงล่าง ก็เท่านั้นเอง อะอธิบาย
แถวปีเกิด ใน วิชาดวงจีน โป๊ยหยี่สี่เถียว คือ รากแก้วรากฝอย ของดวงชะตา ดวงที่ขาดราก หรือขาดความกตัญญูไม่ใช่ไม่เจริญ เจริญได้ โตได้ เหมือนต้นไม้ที่ไม่มีรากแก้วรากฝอย ก็ไม่ตาย ยังยืนต้นได้ เพียงแต่ มันล้มง่าย เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ชีวิตมักล้มลงเหลือศูนย์ หรือ ติดลบ ลองไปปรับปรุงเรื่องความกตัญญูของตนเองดู ทุกครั้งที่มีคนถามว่า ดวงจะเจอเรื่องร้ายๆไหม หรือจะเจ๊งไหม นอกจากพิจารณาองค์ประกอบ จร อื่นๆ แล้ว ในดวงแล้ว ส่ิงที่ผมพิจารณาก็คือความกตัญญู ถ้าทุกอย่างในดวงส่อเค้าวุ่นมากแค่ไหนก็ตาม จะแย่แค่ไหนก็ตาม แต่ความกตัญญูเด่นดวงมากนี่นะ รับรองว่า ไม่เจ๊งเหลือศูนย์เด็ดขาด ผมมักจะใช้คำว่า คนพวกนี้ ขึ้นปอสี่มาแล้วจะไม่ลงไปปอสามอีก คือต่อให้ตกระกำลำบากหรือดวงต้องเจ๊งแค่ไหน จะแค่เสมอตัว คนกตัญญูจะไม่ตกไม่ต่ำแบบที่เราพูดกันนั่นหละครับ

แถวเวลาเกิดใน วิชาดวงจีน โป๊ยหยี่สี่เถียว คือ ดอกผล ของดวงชะตา ผลงานที่ปรากฎออกมาว่า คุณภาพของการอบรมจิตใจ หรือการกระทำ หรือการฝึกฝนของคุณนั้นมากมายแค่ไหน ตัวนี้เองที่เอาไว้ดูว่า ควรจะรับใครมาสอนวิชา หรือไม่รับใคร ของดีไม่ควรตกแก่มือคนชั่วช้าครับ อันนี้คนเป็นอาจารย์ไม่ว่าวิชาอะไรควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้าช้างมันตกมันไปละเราจะมาตัดงา สายไปเสียแล้ว สู้ควรกำราบงาช้างไม่ให้แหลมคมทำร้ายใครเสียแต่แรกดีกว่า จุดๆนี้ใช้บอกเรื่องลึกซึ้งอีกหลายเรื่องภายในใจ วันนี้ คายวิชาเอาพอหอมปากหอมคอกันเท่านี้ กินขนมอมคนเดียวไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แบบที่ผมตั้งกลุ่ม โหราศาสตร์จีนและศิลปวัฒนธรรมจีนขึ้นมาในเฟสบุ๊ค เราอยากมาร่วมกินกันเฮฮาสนุกสนาน มันเป็นแค่การตั้งวงหาเพือนก๊งวิชากัน เท่านั้น เพราะเรียนคนเดียว หรือสนุกคนเดียว เก่งคนเดียว เหงาจะตายไปครับ เชิญชวนใครที่กำลังเหงากับวิชา หรือกำลังคิดว่า ข้าคือคนแปลก เข้ากับใครได้ยาก ตลอดจน ข้าเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด ทั้งๆที่จริงๆแล้วตัวเองต้องการสังคม แต่พอไปพูดละใครๆก็ไม่เข้าใจ ท่านอาจจะได้ประโยชน์จากดวงจีน และได้รับความสุขจากกลุ่มนี้ โหราศาสตร์จีน และศิลปวัฒนธรรมจีน ครับ กดเลย https://www.facebook.com/groups/fengshuizhu ยินดีต้อนรับ แล้วมาเป็นเพื่อนกันครับด้วยคารวะบูชาในวิชาโหราศาสตร์จีนนี้ กุศลที่ได้เผยแพร่ความรู้ของยกให้แด่ครูบาอาจารย์เทพไท้เทวา ผู้รังสรรค์และปกป้องสืบทอดวิชานี้ทั้งมวลเทอญ

พิมพ์นะ เช้ามืดของวันที่มีความสุข ของปีนี้ เช้าที่ตื่นเองตีสามแบบไปนอนวัดโดยที่ไม่ต้องมีนาฬิกาปลุก ตื่นเช้าแต่มีพลัง

ซินแสหลัว