เสริมดวง สร้างตาน้ำของเงินตราให้ชีวิตมีทรัพย์สินไหลมาไม่ขาดสาย
สู่ความเป็นเจ้านายของเงินตราอย่างแท้จริง
ในขณะที่คุณๆทั้งหลายก็กำลังมีจิตใจวุ่นวายในเรื่องการหาเงินหาทองกันอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อหวังจะสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับครอบครัว และหวังอยากมีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยแบบมั่นคงไวๆ จนเป็นช่องโหว่ของใจที่ใฝ่เงิน เป็นช่องทางของนักการตลาดตัวยงที่เข้ามาชวนเชื่อเรื่อง “หุ้น” โดยแต่งคำขึ้นแบบสวยหรูจนเป็นวลีติดปากว่า “ใช้เงินทำงานแทนเรา และ มาเป็นเจ้านายของเงินกัน” ผมไม่ได้บอกว่าการเล่นหุ้นไม่ดีนะครับ การเล่นหุ้นสำหรับหลายคนทำให้เขาพลิกชีวิตเป็นมั่งคั่งร่ำรวยได้มานักต่อนัก เพียงแต่วลีว่า ให้เราเป็นนายของเงิน นั้นจริงหรือ หรือว่ายิ่งสนใจในเรื่องหุ้น เรายิ่งตกเป็นทาสของเงินมากขึ้น เริ่มตั้งแต่หลายคนต้องหาเวลาไปซื้อหาหนังสือมาอ่าน บางคนโชคดีหน่อยก็เล่นตามเพื่อน ตามๆแฟน หรือบางคนก็ใฝ่ใจลงทุนชีวิตหน่อยก็ไปเข้าอบรมต่างๆ ไม่ว่าราคาค่าอบรมจะไม่น้อยเลย แต่ก็ถือว่าได้ลงทุนเพื่อความมั่งคั่งที่ใฝ่ฝัน เงินทองที่หลั่งไหลมามากกว่าที่เสียไป ก็ยอมเสีย ถือว่า คุ้ม กับ คุ้ม สรุปว่า เวลาว่างเหลือจากการเรียน หรืองานประจำ ก็ต้องไปทุ่มเทให้ความสนใจศึกษา และมาฝึกเล่นหุ้น ยังไม่นับรวมใจที่ต้องคอยลุ้นตลอดเวลาว่า หุ้นจะขึ้นหรือลง ท้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เพื่อตัวเลขที่แปรค่าเป็นอัตราเงินให้สมดังใจหมาย คือ ได้เงิน ได้กำไร ทุกขณะเวลา กลายเป็นจิตใจฝักใฝ่ในเงินตรา กำไร และขาดทุนตลอด จนอาจลืมไปว่า แท้ที่จริงแล้ว ชีวิตต้องการอะไร และนี่หรือสำหรับคำที่คุณว่า เป็นเจ้านายของเงินตรา ในดวงจีนเราถือว่า ใจที่ปล่อยวางต่อเงินตราเท่านั้นที่จะสามารถเป็นนายของโชคชะตา เป็น นายของเงินตรา ได้อย่างแท้จริง ตรงกับพระพุทธศาสนาที่ว่า การให้ทาน ทำให้ได้รับอามิสตอบแทน เรียกว่า ให้ แล้ว ได้คืน แน่นอน เพียงแต่ช้าหรือเร็วเท่านั้น คือ ยิ่งเราสละความโลภในเงินได้มากเท่าไหร่ ผลกรรมดีก็จะสนองตอบแทนคืนมาเท่านั้น และนี่คือ เป้าประสงค์ของการให้อามิสทาน (ให้สิ่งของ ทรัพย์สิน) คือ ตั้งใจให้คน ลดละความตระหนี่ ในใจ ใจที่วางเฉย หรือ ใจที่คิดจะให้ย่อมสบาย และสุขกว่าใจที่คิดแต่จะได้ การกระทำของการปล่อยวางใจทางเงินตรา จึงจะทำให้เกิดตาน้ำในชีวิต มีเงินทองไหลมาไม่ขาดสาย เพราะการให้ ย่อมไม่อด ไม่จน และได้ ผลดี แน่นอน
ซึ่งตรงกับหลักการทางพุทธอีกข้อคือ งานคือชีวิต ชีวิตคืองาน บันดาลสุข ทำการงานให้เป็นการปฏิบัติธรรมในทุกๆวัน เพราะเราทำงานเพราะเรารักงาน เพราะเราใส่ใจในงาน ทำด้วยหัวใจสุขล้นปรี่ที่ไม่ตีค่าตัวตนของเราให้ต่ำด้วยเงินตรา ไม่วัดคุณค่าเพื่อนร่วมงานด้วยอัตราเงินเดือน ไม่แชเชือนในเป้าหมายชีวิต และไม่ลิขิตหรือใช้ใครด้วยอำนาจเงินฟาดหัว แปลว่า ต่อไปนี้เราจะทำงานด้วยความตั้งใจ เอาผลงานที่เราภูมิใจเป็นที่ตั้ง ให้คะแนนตัวเองด้วยความภูมิใจ ว่างานที่ทำทำได้เต็มที่แค่ไหน เกิดความภูมิใจในงานในตนเองเพียงไร ไม่ใช่มาตั้งหน้ขมีขมันจะทำงานให้ได้เลื่อนขั้นจะได้ได้เงินเดือนเยอะๆ ให้ได้โบนัส ให้ได้ผลงานคอมมิทชั่น ถ้าคิดแบบนี้ได้ เราก็จะบริหารชีวิตแบบเบากายเบาจิต ไม่ทำงานจนเบียดเบียนร่างกายจนไม่มีเวลาพัก และไม่ตีค่าของเพื่อนร่วมงาน ของลูกจ้าง ด้วยเงินตราว่า ผู้มีตำแหน่งสูงกว่า เงินเดือนมากกว่า ย่อมทำอะไรก็ได้ ใช้สอยอะไรผู้น้อยก็ได้ โดยไม่นึกถึงน้ำจิตน้ำใจคน เพราะถ้าคุณค่าของคนๆนึงถูกลดต่ำมาตีตราความสามารถทางการทำงานและปัญญาเป็นตัวเงินได้เสียแล้ว นั้นแปลว่า คุณค่าของผู้ตีราคานั้นก็ต่ำเสียเหลือเกิน เพราะชีวิตคนๆนึงมีค่ากว่านั้นมากนัก มีค่ากับใคร มีค่ากับพ่อแม่ของเขา กับเพื่อนของเขา และต่อสังคมที่เขาดำรงอยู่ การทำงานหากคิดได้ดังนี่ก็จะทำให้มีความสุขในงาน และมีความสุขพอใจในเงินรายได้
แล้วอะไรคือ ข้อพิสูจน์ว่า การปล่อยวางจิตจากเงินตรา ลดละความตระหนี่อยากได้ จะทำให้เราได้เงินทองแน่นอนเล่า ผมใช้วิชาดวงจีนพิสูจน์ให้ดูแล้วมีหลักฐานยืนยันให้แล้ว
ด้วยปล่อยจิตจากเงินตราให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จึ่งทำให้เงินทองทุกวันนี้มีใช้อยู่เรื่อยๆ และเมื่อเราได้รับคำท้าทายทางวาสนา เราก็จะบริหารจัดการจจิตใจเราได้อย่างดี เรื่องนี้มีหลักฐานยืนยัน โดยมีอยู่ว่า วันหนึ่งสตรีผู้ให้ผมเป็นที่ปรึกษาทางดวงชะตาจีนก็ส่งโทรมาบอกว่า ธรรมดาลูกหนี้เธอไม่เคยเหนียวหนี้จ่ายไวตลอด ไม่เหมือนรายนี้ ผ่านมาสามเดือนละ ยังไม่ยอมจ่ายสักที หมอดู สามารถทำให้เขาจ่ายได้ไหม ถ้าทำได้ ให้แสนนึง
ฟังไม่ผิดครับ ผมนั่งดูทีวีเฉยๆ ของผม จู่ๆก็มีข้อความดังกล่าวส่งมา
ความรู้สึกมันก็พอๆกับ ป้ายโฆษณาที่เขียนว่า ด่วน อาชีพเสริมพิเศษรายได้ดี ได้เป็นหมื่นๆทันใจ หรือ ลองมาใช้ชีวิตเป็นเจ้านายของเงินตรา ได้เงินแสนทันใช้ อะไรทำนองนั้น
หลายคนก็อาจคิดว่า หมอดูอาจใช้วิชาเล่นของทางจีนเพื่อให้ได้มาก็ได้ คงไม่ยากเย็นนัก หรืออาจจะต้องมานั่งคำนวนดวงดาวว่าเกณฑ์ช่วงนี้จะได้เงินหรือไม่
สิ่งที่ต้องมาคิดอันดับแรก และวิธีสร้างตาน้ำทางเงินตราคือ ใจเบาสบาย ไม่เดือดร้อนใช้เงิน แปลว่า คุณต้องมีเงินเย็น(เงินที่ฝากเอาไว้แบบไม่ถอน) อยู่เพียงพอต่อรายจ่ายหนึ่งเดือนแบบไม่ต้องทำงานใดๆ และมีการฝากเงินเข้าบัญชีนั้นประจำทุกเดือน เพื่อให้ง่ายต่อการ วางใจเบาต่อเงินตรา หมายความว่า มีความอุ่นใจทางการเงิน ไม่ต้องร้อนรนกระเสือกกระสนหา ข้อสำคัญก็คือ ต้องไม่มีหนี้สินนั้นนหละ จึ่งจะทำความคิดแบบที่ผมว่าให้เกิดได้ง่าย ผมเรียกว่าคือการสร้างตาน้ำ คือการทำตัวให้เป็นนางกวัก เรียกโชคทางการเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เพราะเราได้ภาวนาในใจทุกวันๆ เลิก ตระหนี่ เลิกไขว่คว้ามากเกินไป
สิ่งที่สอง คือ การบริจาคทาน อย่างสม่ำเสมอ มีมากทำมาก มีน้อยทำน้อย ไม่ว่าจะด้วย เงิน สิ่งของ หรือแรงกาย โดยไม่อ้างความไม่สะดวกแบบเลี่ยงไม่ได้ว่า ฉันไม่มีเวลา เพราะเมื่อใดที่คุณยกอาชีพขึ้นนำหน้า ก็แปลว่า เงาของความโลภเงินตราได้เกาะกินโดยไม่รรู้ตัว เหมือนเราพบต้นไม้ ต้นนึงแล้วเราสาวหารากไม้ ว่าชอนไชไปหาอะไร ก็ยอ้นคิดง่ายๆว่า เหตที่ต้องทุ่มกับงาน คือ กลัวเสียงาน กลัวตกงาน ก็คือ กลัวไม่มีเงินใช้ ขาดงาน กับทุ่มเทกับงานมากไปนี่ต่างกัน ขาดงานหมายถึง เราไม่มีความรับผิดชอบในงานที่ทำ ทำย่อหย่อนกว่าที่สมควร แบบนี้ไ่ม่ควร ไม่ใช่ว่าลบหน้าที่มาทำบุญ ฯ แต่การทำงานแบบเอาเป็นเอาตายมากเกินไปหวังได้หน้า หวังได้ความเจริญ แบบนี้ร้ายกาจ เรียกว่า ทำงานด้วยความโลภ พวกนี้ยิ่งมาอ้างว่า ต้องทำงาน ไม่มีเวลา เงินทองก็จะยิ่งหายากขาดมือเรื่อยๆ เพราะมารย่อมห็นช่องว่า จัดการให้เราจิตตกในเรื่องเินตราได้ง่าย
สิ่งที่สามคือ การไม่ตื่นเต้นในลาภลอย แบบที่ผมทำ คือเมื่อเธอโทรมาบอก ถ้าหมอทำได้ ให้เขาใช้หนี้ ฉันให้แสนนึง ผมก็รับปากไปว่า จะทำให้ แต่แทนที่จะกระเหี้ยนกระหือรือหาหนทาง หาวิชาาช่วย เปล่าเลย เราก็ยังคงนั่งดูทีวีด้วยความสุขกายสบายใจ และรับคำเขาไปว่า เดียวสองสามวันก็ได้คืนละ ทำไมต้อพูดแบบนั้น ก็เพราะต้นตออยู่ที่เจ้าหนนี้กระวนกระวายใจมาก เลยไม่ได้เงินเสียที เรากระตุ้นแบบนี้เขาจะสบายใจขึ้นมา กระแสเงินก็เข้าง่าย และการไม่ตตื่นเต้นนี้ก็ไม่คิดจะเอาเงินจากลาภลอยนี้ไปใช้สอยใดๆด้วย พูดง่ายๆคือ ได้ก็ชั่ง ไ่ม่ได้ก็ชั่ง เมื่อไม่ตื่นเต้นในเงินตราแบบนี้ และยังใช้วิถีชีวิตปรกติ สองวันเท่านั้น ลูกหนี้ก็ใช้หนี้ ผมก็ได้ แสนนึง ในเวลาสองวันแบบไม่ทำอะไรเลย ทำแต่ใจ ฝึกแต่ใจ และปล่อยเบาสบาย ไม่ใช่ปล่อยเพราะคิดในใจว่่า ปล่อยแล้วได้ๆ ด้วยนะ ต้องปล่อยเหมือนเราปล่อยสายป่านลูกโป่งสวรรค์ และเฝ้ามองมันหลุดลอยมือขึ้นฟ้าแบบไม่ร้องไห้โวยวายเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่พวกโลภเงินทองชอบทำกัน คือ ตื่นเต้นกับลูกโป่ง ได้มาแล้วกำไว้แน่น พอหลุดมือไปก็ร้อไห้ฟูมฟาย
แสนนึงในสองวัน จึงแค่ยกตัวอย่างให้ฟังเท่านั้น ตาน้ำนี้ ยังใช้ได้เนืองๆ และแนะนำให้คนใช้ได้ผลมาหลายคนแล้ว ที่มาเขียนบอกเพราะเบื่อมนุษย์ จะได้เลิกมาขอให้ดูดวงให้เสียที ขึ้นราคาแล้ว ขึ้นราคาอีก ก็ยังตามตื๊อดูดวงอยู่ได้
จำได้ว่า ครั้งนึงเคยเรียกค่าดูดวงเป็นเปอร์เซ็นต์รายได้ ครอบครัวนึงต้องเสียหมื่นนึง ก็ยอมดูดวง บางครอบครัวเสียแสนนึงก็ยอมดูดวง เขาบอกว่า คุ้มค่า ผมก็เห็นว่าคุ้มจริง เพราะการรู้แนวทางแบบนี้ นอกจากสร้าตาน้ำเงินตราให้ตัวเองแล้ว ยังทำให้ใจสบาย ไม่ตกเป็นทาสเงินด้วย และนี่คือนายของโชคชะตา และนี่คือการโฆษณาบ้าๆ ชวนเชื่อ อย่างมีหลักฐานยืนยันได้ ของหมอดูจีนบ้าๆ ซินแสหลัว
ปล. หลังจากนี้ไม่นาน คงขึ้นค่าดูอีกเป็นดวงละ พันบาท
