อ่านก่อน ขอรับหนังสือดวงชะตาชีวิตตลอดชีพของแต่ละบุคคลจากผม

เสียงธรรมะจากภูกุ้มข้าว
เรื่องโยมแม่จะหายป่วยไหม
พระครูบาไพโรจน์ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งมีโยมโทรมาหาท่าน ให้ท่านเปิดลำโพงโทรศัพท์ถวายองค์หลวงปู่
โยม: หลวงปู่เจ้าค่ะ แม่โยมป่วยหนัก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล โยมก็อยู่ เลยไม่ได้ไปกราบถามเอง จึงได้โทรมาเจ้าค่ะ
หลวงปู่: อือ ว่ายังไง
โยม:แม่โยมป่วยหนัก จะหายหรือเปล่าเจ้าค่ะ
หลวงปู่: ตอนนี้อยู่ที่ไหน
โยม:อยู่โรงพยาบาลเจ้าค่ะ
หลวงปู่ : หมอตรวจหรือยัง
โยม: ตรวจแล้วเจ้าค่ะ
หลวงปู่: หมอว่าไง
โยม: หมอว่าหายแล้วเจ้าค่ะ แต่โยมไม่แน่ใจ เลยโทรมากราบขอเมตตาหลวงปู่ แม่หนูจะหายไหมเจ้าคะ
หลวงปู่ : หาย…………………………
โยม: สาธุเจ้าค่ะ กราบนมัสการเจ้าค่ะ
พระครูบา : หลวงปู่ ทำไมรู้ว่าหายล่ะครับผม
หลวงปู่ : เอ้า ก็หมอว่าหายเนาะ
ครูบา: ……………………………………..
พระครูบาท่านเล่าต่อว่า หลวงปู่ชอบพูดเสมอว่า ตัวท่านไม่ใช่ผู้วิเศษ ตัวท่านไม่ใช่เทวดา ท่านไม่เคยเกิดเป็นไดโนเสาร์ ท่านไม่ใช่พระอรหันต์ ท่านเป็นหลวงตาวิจิตร เป็นหลวงตาหา เป็นคนธรรมดาอะไรๆก็มาหาเรา มาถามเรา ดีก็ถาม โง่ก็ถาม ฉลาดก็ถาม ขนาดหมอเขาว่าหาย ยังมาถาม เป็นชาวพุทธอย่ามัวแต่พึ่งคนอื่น มันเสียเกียรติลูกพระพุทธเจ้า ท่านให้พึ่งธรรม พึ่งตนเอง
พระพุทธคือผู้รู้ทาง พระธรรมคือทาง พระสงฆ์ คือผู้เดินตามทาง เราต้องเดินเองอย่ามัวแต่พึ่งคนอิ่น พึ่งแต่หลวงตาหา พึ่งแต่หลวงปู่ไดโนเสาร์ ถ้าไดโนเสาร์ตัวนี้สูญพันธุ์ไปอีกตัวจะพึ่งใคร พวกคุณจะพึ่งใคร สุดท้ายพวกคุณก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี
***พระพุทธ คือผู้รู้ทาง พระธรรม คือทาง
พระสงฆ์ คือผู้เดินตามทาง
เราต้องเดินเอง อย่ามัวแต่พึ่งคนอื่น***
ตามรอยหลวงปู่ภูกุ้มข้าว ฉบับปฐมบท
บันทึกคำสอนของ พระญาณวิสารเถร(หลวงปู่หา สุภโร)
—————————————————
ทุกครั้งที่ผมอ่านธรรมะ ศึกษาปฏิปทาของครูบาอาจารย์ ผมรู้สึกภาคภูมิใจทุกครั้งว่า เราได้ดำเนินชีวิต ครองตน ครองงาน มาถูกแนวทางแล้ว อย่างประเด็นเรื่องโหราศาสตร์ มีนะ
บางคนมาขอให้ผมเป็นซินแสประจำตัวเลย ชนิดจะออกเงินเดือนให้ ละขอให้ผมช่วยทำนายเป็นรายเดือนๆ
บางคนอยากมีหนังสือดวงชะตาประจำตัวเอง คล้ายๆแผนที่ชีวิต ว่าปีนี้ต้องทำอะไรบ้าง หลบเลี่ยงอะไรบ้าง
ละบางคนที่รู้ภูมิรู้ทางฮวงจุ้ยของผม (เพราะในสายตาคนทั่วไป ผมคือหมอดูจีน) ก็มาขอว่า ช่วยวางแบบการปรับฮวงจุ้ยในทุกๆเดือน ทุกๆปีให้หน่อย
บางคนกระดาษที่ผมเขียนให้ก็เก็บใส่กรอบอย่างดี ทั้งๆที่ผมย้ำว่า เป็นผ้า เอาไว้ได้นานก็สิบปี เป็นกระดาษ ปีหน้าให้เผาตอนตรุษจีนครับ
หมอดูมันเสี่ยงเป็นอาชีพที่ประกาศตนเป็นผู้วิเศษง่ายมากๆ แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ได้เป็นว่าเล่น แต่ผมพยาย้ามอย่างยิ่งให้เป็น อาเทศนาปาฏิหาริย์ และ อนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์ทุกครั้ง เพราะผมปาวารณาตนเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าแล้ว
เหมือนที่หลวงปู่ท่านพูดสอนครับ ถ้าคุณมาเชื่อที่ผม ไม่เชื่อที่การกระทำของตัวคุณแล้ว ผมเกิดตายไป ชีวิตพวกคุณจะเป็นอย่างไร มิแคล้วต้องวิ่งวนเวียนลนลาน หาที่พึ่งใหม่ดอกหรือ หรือต่อให้ไม่ตาย แต่ผมบอกว่า ปีนี้ ผมของดทำหนังสือดวงคุณประจำปีนะ เลิกดูดวงด้วย โอ้ว เคว้งกันหลายคนละทีนี้
ดวงจีน ไม่ใช่สิ่งที่งมงายครับ ผมกล้ายืนยัน เพราะถ้างมงาย ผมไม่สละวิชาและอาชีพดีๆทางโลกมาทำตรงนี้หรอก ผมเห็นว่านี่คือทางอีกสาย มุ่งหมายถึงที่สุดแห่งจักรวาลและกาลเวลาได้ เฉพาะ ดวงจีน นะ เฉพาะวิชานี้นะ ที่เป็นวิชาว่าด้วย ธาตุ คนเป็นธาตุ สรรพสิ่งเป็นธาตุ ถ้ายังมีอัตตา เราก็เอามาทำนายตัว ทำนายตน ทำนายคน ทำนายเวลา ได้ เราก็เอาจัดบ้าน จัดโต๊ะ จัดที่ทำงาน จัดโรงงาน ได้ แต่ถ้าเราเป็นผู้ใช้วิชา ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะทำการแยกร่างมันว่า โอ้หนอ สิ่งเหล่านี้ นี่เป็นสักแต่ว่าธาตุ คือสิ่งที่ทรงสภาพที่แตกต่างกันไปเท่านั้น กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจฯ เมื่อใครล้มเหลว อ้อ ก็กองธาตุกับวิญญาณตัวรู้ ล้มเหลว เมื่อใครได้ดี ได้แต่งงาน อ้อ ก็กองธาตุกับตัวรู้ มาสมสู่กัน เมื่อใครอยากก้าวหน้า เราก็ปรับธาตุ พร้อมกับเสริมความรู้ในการดำรงชีวิต งานหมอดู เป็นงานที่ยิ่งใหญ่นะ ไม่ใช่สักแต่ว่า ทำนาย หรือ วางๆ จัดๆ เปลี่ยนๆ ให้ได้พลัง แต่เราหวังเอาความเจริญก้าวหน้าบนพื้นฐานจิตใจที่เขาจะได้ยกระดับตัวเขาเองขึ้น ตามภูมิรู้ภูมิธรรมของเขา เราเพียงใช้วิชาเป็นเครื่องมือ
ซินแส ละในฐานะหนูเป็นคนดูดวง หนูอยากรู้ดวง อยากมีชีวิตดี อยากจัดฮวงจุ้ยให้ดีๆ หนูควรทำตัวอย่างไรค่ะ ถ้าซินแสบอกว่า ทำแบบข้างต้นไม่ได้
ตอบ
เธอจงอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ได้ก่อน ทั้งบ้าน และ ที่ทำงาน คือปลอดภัย ไม่ไกลจากแหล่งความรู้ ไม่อดสูกับการแสวงหาการกิน และง่ายต่อการได้ยลได้ยินธรรมะของพระพุทธเจ้า เข้าใจนะ สี่อย่าง เสร็จแล้ว จงประพฤติตนอยู่ใน ศีลห้า หรือ กุศลกรรมบทสิบ ทำให้ครบเถิด ยามเธอเดือดร้อน คนดีจะมาช่วย ยามเธอได้ดี คนดีจะมาหนุนส่ง ตามโอกาส ตามปัจจัย แต่ สมบัติสี่ วิบัติสี่เธอต้องศึกษา และไปทำสมบัติสี่ให้ได้มากที่สุด เท่านี้แล้ว ชีวิตก็ปลอดภัยได้ส่วนนึงบ้างแล้ว หากอยากได้ผู้ชี้แนะในบางเรื่อง บางโอกาส ที่สำคัญๆ ก็ค่อยตามหากันเป็นคราวๆไป กินยาให้พอหายป่วย อย่าไปกินยาบำรุงที่ต้องกินจนเสพติดมัน ขาดมันไม่ได้ แล้วชีวิต มันจะมีทางเดินของตนเองหรือ
ซินแสหลัว
9/11/2017