คำถามที่พบบ่อย

ทำไงให้ชะตาชีวิตได้เจอคนดี

ทำไงให้ชะตาชีวิตได้เจอคนดี

คำถามของคนส่วนใหญ่ หนีไม่พ้นเรื่อง ดูดวงการเรียน ดูดวงการงาน ดูดวงความรัก ดูดวงเงินทอง ดูดวงญาติพี่น้อง มีคำถามใหญ่ๆที่น่าสนใจว่า “ทำอย่างไร จะได้เจอคนดีๆกับเค้าเสียที” “ทำอย่างไร นาย/นาง/นางสาว ชื่อนี้ๆ จะเป็นคนดีเสียดี จะเลิกทำไม่ดีเสียที” “อยากได้คนรักดีๆต้องทำอย่างไร” “อนาคตข้างหน้า ลูกหลานจะดูแลไหม”

ตลอดมาตั้งแต่เริ่มศึกษาวิชาโหราศาสตร์จีน จนถึง ณ วันนี้ ผมเน้นย้ำหลักการหนึ่งมาตลอดว่า คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงดวงชะตาตัวเองได้ จากดวงที่หมอดูทำนายแม่น ให้ยกระดับขึ้นเป็นดวงที่หมอดูไหนๆก็ทำนายเราไม่แม่นได้ ทั้งนี้ เพราะโหราศาสตร์ทำนายตามพื้นชะตา หรือสันดานเดิมของเรา การเปลี่ยนแปลง จิตใจ ตัวเองให้กลายเป็นคนใหม่ จะทำให้ ดวงชะตาเปลี่ยน ยืนยันได้จริงจากประสบการณ์ของตัวเอง และคนรอบข้าง ตลอดจนผู้ที่มาขอคำปรึกษาด้วยวิชาโหราศาสตร์จีน ว่า ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า เป็นยาชั้นหนึ่ง ในการเปลี่ยนดวงชะตา

หน้าปกหนังสือ สาธยายมนต์ ฉบับชาวบ้าน โดย อารามภิกษุณี นิโรธาราม เขียนไว้อย่างน่าสนใจว่า

“พยายามอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี คบคนดี วางตนให้ถูกต้อง … เพราะการรับรู้ ทำให้เกิด ความจำ

จงเลือกจำ แต่สิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม เพราะ ความจำ ทำให้เกิดความคิด

จงเลือกคิด ตามพระปัญญาของพระพุทธเจ้า (ตามธรรมะ) เพราะความคิดนี้หละ ทำให้เกิดพฤติกรรม

จงเพียรฝึกพฤติกรรม (พฤติกรรมเปลี่ยนได้ ฝึกฝนกันได้) เพราะพฤติกรรมที่ทำบ่อยๆ ทำจนชิน ทำให้เกิด นิสัย

จงอดทนฝึกนิสัยที่ดี (แรกๆอาจต้องฝืนใจ ก็ต้องอดทนทำไป) เพราะนิสัยที่ดี ต่อเนื่อง ทำให้เกิด สำนึกที่ดี

สำนึก หรือ สามัญสำนึกที่ดี หรือ ชั่ว นี้เอง คือ ดวงชะตา ที่ทำให้คนเราต้องพบเหตุการณ์อย่างไร ที่ไหน กับใคร นานเท่าไร พบแล้วเป็นสุข หรือ ทุกข์  จริงๆแล้ว ชีวิต ต้องการอะไร” 

 

อันนี้แสดงให้เห็นกระบวนการของ การเปลี่ยนแปลงตนเอง เปลี่ยนแปลงดวงชะตา ว่าควรเริ่มที่ การไม่คบคนพาลก่อน หันมาคบผู้รู้ บัณฑิต และบูชานอบน้อมบุคคลที่ควรบูชา สามอย่างนี้ต้องทำควบคู่กันไป จากนั้นคือ การอยู่ในถิ่นที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี (ปฏิรูปะเทสะวาโสฯ) แต่ทำอย่างไรหละ คนเรามีกรรมเก่าต่างกัน เราเลือกสถานที่ลงมาเกิดด้วยตัวเองไม่ได้ บางคนเกิดในบ้านคนมีฐานะ บางคนเกิดในบ้านคนฐานะยากจน บางคนเกิดในบ้านคนดี พ่อแม่มีศึลธรรม บางคน เกิดในบ้านที่พ่อแม่ชอบทะเลาะกัน รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมแถวๆบ้าน ว่า ใกล้แหล่งอโคจรไหม บางทีบ้านเราไม่ทะเลาะกัน แต่คนข้างๆบ้านเรา ด่ากันทุกวัน ซึ่งเราจะไปเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ ย้ายก็ย้ายไม่ได้ การศึกษาเรื่อง สิ่งแวดล้อม นี่หละ ทำให้เป็นที่มาของ ฮวงจุ้ย จริงๆเป้าหมายของฮวงจุ้ยมีคำสั้นๆเองว่า ขอให้สิ่งแวดล้อมดี แต่ไม่ได้รับประกันนะว่า สิ่งแวดล้อมดี จะทำให้เรามีความสุข หรือสิ่งแวดล้อมดีจะทำให้เราเป็นคนดี มันยังต้องมีกระบวนการ เหมือนการทำเกี๊ยวซ่า ไม่ใช่ว่า เครื่องปรุงวัตถุดิบทุกอย่างดี แล้วมันจะอร่อย มันต้องมีกระบวนการตั้งแต่ต้น จนจบ ที่ดีด้วย มันถึงจะออกมาดี แต่สิ่งแวดล้อมที่ดี ถ้าเลือกได้(ควรเลือกอย่างยิ่ง) เป็นอาหารเสริมที่ทำให้เราทำกระบวนการต่างๆต่อมาเพื่อให้ลุถึงชีวิตที่มีความสุขได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ฉะนั้น ฮวงจุ้ย จึงเป็นเรื่องเล็กน้อย เล็กน้อยมากที่จะทำให้ชีวิตดีงาม พบสุข บางทีเราต้องถอนมายาคติจากการที่เรามองแคบๆ ว่าทุกอย่างเป็น ฮวงจุ้ย ออกมาให้เห็นภาพใหญ่ คือ พิจารณาวิถีการดำเนินชีวิตของเรา มากกว่า วิชานี้จากตำรามีคุณค่า ปัจจุบันกลายเป็นตำรามีมูลค่า จึ่งเกิดกระแสต่างๆ ให้จำไว้เลยว่า ฮวงจุ้ย กำหนดชีวิตเรา ไม่ได้ ผมกล้าพูดแบบนี้ทีเดียว

การอยู่ในถิ่นที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี (ปฏิรูปะเทสะวาโสฯ) คือ

ถิ่นที่ไม่เป็นพิษภัยต่อสุขภาพกาย

ถิ่นที่สนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยสามารถประกอบกิจการอันเป็นสัมมาชีพของตน ให้เจริญก้าวหน้าได้โดยง่าย สร้างสมคุณงามความดีได้เต็มที่

คำว่า การอยู่ในถิ่นที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีนี้ ครอบคลุมถึง ที่ทำงานที่เราทำ สถาบันการศึกษาที่เราเรียน บ้านที่เราอาศัย ประเทศที่เราเกิด มีลักษณะคือ

อาวาส สบาย

หมายถึง มีชัยภูมิที่ดี มีความสะอาด มีความร่มรื่น อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่มีเสียงอึกทึก ไม่ลุ่มไม่ดอนเกินไป ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป

อาหาร สบาย

หมายถึง ซื้อหาอาหารได้สะดวก ไม่แร้นแค้น หรือเป็นที่มีเกษตรกรรมสามารถผลิตอาหารได้เองอย่างพอเพียง ประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตนได้

บุคคล สบาย

หมายถึง บริเวณที่อยู่ ต้องไม่มีนักเลงอันธพาล โจรผู้ร้าย คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นคนดี มีศีลธรรม

ธรรม สบาย

หมายถึง เป็นถิ่นที่สะดวกแก่การแสวงหาความรู้ และเจริญกุศลได้ 

สี่อย่างนี้ ธรรม สบาย สำคัญที่หนึ่ง รองลงมาคือ บุคคลสบาย อาหารสบาย และอาวาสสบาย

 

เพราะถึงแม้อาวาสจะไม่เป็นที่สบาย แต่ถ้ามีอาหารอุดมสมบูรณ์ก็ยังพอใช้ชีวิตอยู่ได้ หรือถ้าทั้งอาวาส ทั้งอาหาร ไม่เป็นที่สบาย แต่บุคคลเป็นที่สบาย ก็สามารถปรับปรุงอาหาร อาวาส ให้เป็นที่สบายได้ บุคคลจะเป็นที่สบายได้ก็ต้องฝึกฝนเริ่มจากตนเองให้มีธรรมะเสียก่อน

 

ตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น แผ่นดินประเทศนี้เป็นเกาะ มีภัยธรรมชาติเยอะ เช่น พายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พื้นที่ก็น้อย (อาวาสไม่สบาย) อาหารการกินก็ยาก (อาหารไม่เป็นที่สบาย) แต่ประชากรมีประสิทธิภาพ มีวินัย ใฝ่หาความก้าวหน้า (บุคคลสบาย) และมีความรักชาติมีหลักในการปกครองที่ดี (ธรรมสบาย) ทำให้พัฒนาเป็นประเทศที่เจริญได้

 

เพราะฉะนั้นท่านไม่ต้องไปกังวลเลยเรื่อง ฮวงจุ้ยไม่ดี ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ซินแส เป็นหน้าที่ สถาปนิก หรือผู้มีความรู้เฉพาะด้านเขาทำไป แก้ไขกันไป เอาจิตเอาใจมาห่วงเรื่องตัวเองเป็น บุคคลคุณภาพพอหรือยังดีกว่า มีศีลไหม มีสติไหม มีการแสวงหาความรู้ในด้านดีเพิ่มเติมหรือไม่ พัฒนาตนเองหรือไม่ ดีที่สุด ฮวงจุ้ยก็ดี ดูดวงก็ดี หรือแม้แต่การแพทย์ การเภสัช ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งภายนอก เป็นตัวช่วยให้เราสามารถดำรงชีวิตและพัฒนาตนเองได้เท่านั้น ไม่มีอำนาจมา เปลี่ยนแปลงตัวเรา หรือดวงชะตาเราได้ หากว่าเราไม่ลงมือทำอะไรบางอย่าง ทุกสิ่งภายนอกเป็นแค่ เสริมกำลังใจ ถ้ารู้จักฝึกใจ ก็ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งพาสิ่งภายนอก ทุกข์ร้อนจะค่อยคลี่คลายไปเอง อย่างเป็นธรรมดา ธรรมชาติ

ข้อความตอนหนึ่ง จาก อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ มงคลสูตรในขุททกปาฐะ


พรรณนาคาถาว่า ปฏิรูปเทสวาโส จ               

               พระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ถูกเทพบุตรขอมงคลอย่างเดียวว่า พฺรูหิ มงฺคลมุตฺตมํ ขอได้โปรดตรัสบอกมงคลอันอุดม แต่ก็ตรัสถึง ๓ มงคล ด้วยคาถาเดียว เปรียบเหมือนบุรุษใจกว้าง ถูกขอแต่น้อยแต่ก็ให้มาก ยิ่งไปกว่านั้น ยังทรงเริ่มที่จะตรัสมงคลอีกเป็นอันมาก ด้วยคาถาทั้งหลายมีว่า ปฏิรูปเทสวาโส จ เป็นต้น ก็เพราะเทวดาทั้งหลายอยากฟัง เพราะมงคลทั้งหลายมีอยู่ และเพราะมงคลใดๆ อนุกูลแก่สัตว์ใดๆ ทรงมีพุทธประสงค์จะทรงประกอบสัตว์นั้นๆ ไว้ ในมงคลนั้นๆ 
               บรรดาคาถาเหล่านั้น จะกล่าวในคาถาแรกก่อน. 
               บทว่า ปฏิรูโป แปลว่า สมควร. โอกาสเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทั้งหลาย ทุกแห่ง ไม่ว่าเป็นคามก็ดี นิคมก็ดี นครก็ดี ชนบทก็ดี ชื่อว่า เทสะ. การอยู่อาศัยในเทสะนั้น ชื่อว่า วาสะ. 
               บทว่า ปุพฺเพ แปลว่า แต่ก่อน คือในชาติที่ล่วงมาแล้ว. ความเป็นผู้มีกุศลอันสั่งสมแล้ว ชื่อว่า ความเป็นผู้มีบุญอันทำไว้แล้ว. 
               จิตหรืออัตภาพทั้งสิ้น เรียกว่า อัตตะ. การประกอบไว้ คือการตั้งความปรารถนาของตนไว้ชอบ. ท่านอธิบายว่า การตั้งตนโดยชอบ ชื่อว่า สมฺมาปณิธิ การตั้งไว้ชอบ. คำนอกนั้น มีนัยที่กล่าวไว้แล้วทั้งนั้น. 
               นี้เป็นการพรรณนาบทในคาถาแรกนั้น. 
               ส่วนการพรรณนาความ พึงทราบดังนี้. ในประเทศใดบริษัท ๔ ยังจาริกอยู่ ยังบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุมีทานเป็นต้นอยู่ นวังคสัตถุศาสน์ยังรุ่งเรืองอยู่. ประเทศนั้น ชื่อว่าปฏิรูปเทส การอยู่อาศัยในปฏิรูปเทสนั้น ตรัสว่าเป็นมงคล เพราะเป็นปัจจัยแก่การทำบุญของสัตว์ทั้งหลาย. ในข้อนี้ มีชาวประมงที่เข้าไปยังเกาะสิงหลเป็นต้นเป็นตัวอย่าง. 
               อีกนัยหนึ่ง ประเทศเป็นที่ตรัสรู้พระโพธิญาณ [ที่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เรียกโพธิมัณฑสถาน] ประเทศที่ทรงประกาศพระธรรมจักร. ประเทศ คือโคนต้นมะม่วงของนายคัณฑะที่ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ทำลายความเมาของพวกเดียรถีย์ทั้งปวง ท่ามกลางบริษัทประมาณ ๑๒ โยชน์, ประเทศที่เสด็จลงจากเทวโลก ก็หรือประเทศอื่นใดอันเป็นที่ประทับอยู่ของพระพุทธเจ้า มีกรุงสาวัตถี กรุงราชคฤห์เป็นต้น ประเทศนั้น ชื่อว่า ปฏิรูปเทส การอยู่อาศัยในปฏิรูปเทสนั้น ตรัสว่าเป็นมงคล เพราะเป็นปัจจัยแก่การได้อนุตตริยะ ๖ ของสัตว์ทั้งหลาย 
               อีกนัยหนึ่ง ทิศบูรพา ตั้งแต่กชังคลนิคมลงมาถึงมหาสาลา รอบนอกเป็นปัจจันติมชนบท รอบในเป็นมัชฌิมชนบท. ทิศอาคเนย์ ตั้งแต่แม่น้ำสัลลวตีลงมา รอบนอกเป็นปัจจันติมชนบท รอบในเป็นมัชฌิมชนบท. ทิศทักษิณ ตั้งแต่เสตกัณณิกนิคมลงมา รอบนอกเป็นปัจจันติมชนบท รอบในเป็นมัชฌิมชนบท. ทิศตะวันตก ตั้งแต่ถูณะตำบลบ้านพราหมณ์ลงมา รอบนอกเป็นปัจจันติมชนบท รอบในเป็นมัชฌิมชนบท. ทิศอุดร ตั้งแต่ภูเขาอุสีรธชะลงมา รอบนอกเป็นปัจจันติชนบท รอบในเป็นมัชฌิมชนบท. นี้เป็นมัชฌิมประเทศยาว ๓๐๐ โยชน์กว้าง ๒๕๐ โยชน์ โดยรอบ ๙๐๐ โยชน์. มัชฌิมประเทศนี้ ชื่อว่า ปฏิรูปเทส. 
               พระเจ้าจักรพรรดิทั้งหลายผู้ครองอิสริยาธิปัตย์แห่งทวีปใหญ่ทั้ง ๔ ทวีป ทวีปน้อย ๒,๐๐๐ ทวีป ย่อมเกิดในปฏิรูปเทสนั้น พระมหาสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นต้น บำเพ็ญบารมีมาหนึ่งอสงไขยกับแสนกัป ก็เกิดในปฏิรูปเทสนั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายบำเพ็ญบารมีมาสองอสงไขยกับแสนกัป ก็เกิดในปฏิรูปเทสนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายบำเพ็ญบารมีมาสี่อสงไขยกับแสนกัปบ้าง แปดอสงไขยกับแสนกัปบ้าง สิบหกอสงไขยกับแสนกัปบ้าง ก็เสด็จอุบัติในปฏิรูปเทสนั้น. 
               บรรดาท่านเหล่านั้น สัตว์ทั้งหลายรับโอวาทของพระเจ้าจักรพรรดิตั้งอยู่ในศีล ๕ แล้วก็มีสวรรค์เป็นเบื้องหน้า, ตั้งอยู่ในโอวาทของพระปัจเจกพุทธเจ้าก็เหมือนกัน. ส่วนสัตว์ทั้งหลายตั้งอยู่ในโอวาทของพระพุทธเจ้า ของสาวกของพระพุทธเจ้า ย่อมมีสวรรค์เป็นเบื้องหน้า มีพระนิพพานเป็นเบื้องหน้า เพราะฉะนั้น การอยู่ในปฏิรูปเทสนั้น จึงตรัสว่า เป็นมงคล เพราะเป็นปัจจัยแห่งสมบัติเหล่านี้.


ซินแสหลัว